ทุก ๆ ต้นปีใหม่ นักวิเคราะห์มักจะพูดถึงแนวโน้ม(Trend) ในสังคมที่สะท้อนพฤติกรรมของผู้คน หนึ่งในเทรนด์ที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในปี 2567 คือวิถีชีวิตที่เรียกว่า Frugality หรือแนวคิดที่พอจะเรียกได้ว่า “ประหยัดสูง ประโยชน์สุด” โดยบริษัทวิจัยตลาดผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Insider Intelligence ได้วิเคราะห์ไว้ว่าวิถีแบบ The Frugalist กลุ่มใหญ่ที่สุดคือคน Gen Z เห็นชัดที่สุดในเรื่องของแฟชั่น พวกเขาค่อนข้างมีวินัยในการใช้จ่าย มักตัดสินใจซื้อสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลที่มีตัวเลือกมากมายในช่องทางช็อปปิงออนไลน์ นอกจากนี้ยังคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม Gen Z จึงซื้อเสื้อผ้าใหม่น้อยลง แต่หันไปหาเสื้อผ้ามือสอง หรือเลือกซื้อสินค้าที่คุ้มค่าและยั่งยืนมากขึ้น
ติดตามเทรนด์นี้จากตัวแทน Gen Z น้ำ First jobber ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เสื้อมือสอง และ Julie นักศึกษาทุนแลกเปลี่ยนจาก McGill University แคนาดา ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความทรงจำที่มีค่าในชีวิตมากกว่าเรื่องเสื้อผ้าข้าวของ รวมทั้งสำรวจตลาดเสื้อผ้ามือสองจากความเห็นของแม่ค้าตึกแดง ปิดจบด้วยการวิเคราะห์จาก กมลนาถ องค์วรรณดี ผู้ประสานงานเครือข่าย Fashion Revolution ประเทศไทย ในประเด็นเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของวัยรุ่นเทสต์ดี 2024 สาย The Frugalist เพื่อสะท้อนภาพกว้างในมิติของสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มากกว่าเรื่องแฟชั่น
“เท่จัง ตังค์อยู่ครบ” แนวคิดของ Gen Z ที่ไม่เดินตามใคร
ผลสำรวจตลาดเสื้อผ้าอเมริกาในปี 2566 ที่ผ่านมา โดย Insider Intelligence พบว่าผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Z มีพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าค่อนข้างน้อย โดยเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าซ้ำหรือหันไปหาเสื้อผ้ามือสองมากขึ้น พวกเขาค่อนข้างคำนวณการจับจ่ายอย่างมีเหตุผลมากกว่าคนรุ่นก่อน นอกจากนั้นสไตล์ที่โดนใจวัยรุ่นถึงหนึ่งในสาม คือการมองหาเสื้อผ้าที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ เอื้อให้พวกเขาได้ค้นพบสุนทรียภาพหลักที่ได้แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง และจะยิ่งน่าสนใจหากแบรนด์นั้น ๆ เลือกทำการตลาดแบบยั่งยืน
“ส่วนใหญ่คนในรุ่นเราไม่ค่อยเลียนแบบใคร เราจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง เหมือนประโยคที่ว่า Don’t tell me how to dress เรารู้สึกว่าใครจะแต่งอะไรก็เรื่องของเขา แต่เราแต่งตัวเพื่อ please ตัวเอง ไม่ได้แต่งเพื่อที่จะให้ใครมาบอกว่าวันนี้ดูดีจัง แต่ก็ดูกาละเทศะตามความเหมาะสมด้วย”
น้ำ First jobber วัย 27 เล่าสบาย ๆ ขณะเลือกซื้อเสื้อมือสองที่ตึกแดง สวนจตุจักร วันนี้เธอมาหาเสื้อผ้าใน theme สีชมพูเพื่อไปร่วมปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ โดยวางเงื่อนไขไว้ในใจว่า ต้องได้ราคาสมเหตุสมผล คุณภาพดี สะอาด และไม่ต้องดูแลรักษามาก น้ำเลือกเสื้อเชิ้ตสีชมพูผ้าลินินของแบรนด์ดัง ที่ราคาในช็อปเฉียด 1,000 บาท แต่เสื้อมือสองตัวนี้ราคาแค่ 350 เรียกได้ว่าตรงตามเงื่อนไขทุกอย่าง โดยช่วงอายุเธออาจจะเป็น Gen Z ที่เกือบไปแตะ Gen Y แต่เข้าใจถ่องแท้เกี่ยวกับพฤติกรรมในการช็อปปิงเสื้อผ้าและสไตล์แฟชั่นของคนร่วมยุคสมัย เพราะน้ำเป็นแฟนพันธุ์แท้เสื้อมือสองมาตั้งแต่สมัยที่นี่ยังเป็นโครงการ JJ Green จนพัฒนามาเป็นตึกแดง ศูนย์กลางแฟชั่นวินเทจและเสื้อผ้ามือสองที่เป็นหมุดหมายหลักแห่งหนึ่งของวัยรุ่นเทสต์ดีในยุคนี้