พวกเขาสูงส่ง พวกแมวมาร์กซ์ก้าวกระโดด - Decode

พวกเขาสูงส่ง พวกแมวมาร์กซ์ก้าวกระโดด

Play ReadEconomy
Reading Time: 2 minutes

พวกเขาถอนรากถอนโคน — แมวดำ

พวกเขาหัวก้าวหน้า — แมวอ้วน

พวกเขาเป็นฟาสซิสต์ —เสือ

พวกเขาคาดเดาไม่ได้ — แมวป่า

พวกเขาสูงส่ง — ราชสีห์

พวกเขาศิวิไลซ์ — พันธุ์แท้

พวกเขาน่าเกรงขาม — เสือดำ

พวกเขาร่าเริง —ลูกแมว

พวกเขาก้าวกระโดด —แมวทุกชนิด

ไม่ว่าเธอจะถูกโยนหรือถูกบังคับให้กระโดดลงมาจากตึกระฟ้าหลังคาบ้าน เธอจะแลนด์ดิ้งอย่างไร้ที่ติด้วยอุ้งตีนเหมียว แมวทุกแมวจึงถูกโอบรับโดยนักมาร์กซิสต์มาตลอดประวัติศาสตร์ แต่กลับไม่เคยเป็นสหาย เป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น สิ่งนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือ แมว เหมียว มาร์กซ์ ที่ Leigh Claire La Berge เขียน เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักคิดที่ผสมผสานระหว่างเศรษฐศาสตร์กับวรรณกรรมได้อย่างลุ่มลึกและแปลกใหม่ในภาษาแมว ๆ กับ มิทเทน แมวของเธอ

“เจ้าแมวขี้ซน” เธอพูด ตอนที่เขาผลักแก้วน้ำลงจากโต๊ะ

แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า

ผมไม่ได้ซนนะ ไม่มีทาง

แต่เธอก็บอกแบบนั้นกับเขาทุกวัน

ไอ้ความขี้ซน มันก็เลยไม่ได้ไปไหนไกล

มันก็จะเป็นอยู่อย่างนั้น อย่างนั้น

เพียงแต่มาร์กซ์ ไม่เคยแบ่งแยกระหว่างแมวจริง ๆ กับอุปมานิทัศน์สำหรับแมวทุกตัว ทั้งยังเชื้อเชิญให้เราจับคู่ระหว่างแมวที่เป็นนามธรรมกับแมวที่เป็นรูปธรรม แต่เราจะมองเห็นแมวที่เป็นรูปธรรมได้ก็ต่อเมื่อต้องเดินย่ำไปในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ด้วยกัน สำหรับฉันในฐานะผู้อ่านยกให้เป็นงานเขียนลูกผสมระหว่างประวัติศาสตร์ทุน สารานุกรมสัตว์ที่เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป แต่อัดแน่นไปด้วยอุดมการณ์แบบแมว ๆ ที่มีทฤษฎีรองรับ เพียงแต่เนื้อหาทั้งหมดไม่ถูกลำดับเรื่องตามเส้นเวลา จึงไม่แปลกใจที่เพื่อนผู้รักแมวจะบอกตรง ๆ ว่า มันอ่านยาก ฉันพยักหน้า เพราะโครงเรื่องไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน ตายตัว แต่เชื่อฉันเถอะ! เธอเป็นนักตั้งคำถามสร้างสรรค์และแหวกขนบ โดยเฉพาะการตีความทฤษฎีมาร์กซ์จากภาษา แมว ๆ ที่หัวขบถและผ่านการต่อสู้ทางชนชั้นตั้งแต่ยุคศักดินาจนถึงยุคปฏิวัติและโลกาภิวัตน์ล้วนเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของทุน เธอกำลังวิเคราะห์ “มาร์กซ์สำหรับแมว” ไม่ใช่ แมวสำหรับมาร์กซ์ในฐานะตัวแทนของชนชั้นแรงงาน และสัญลักษณ์ของการปลดแอกทางสังคมแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

หนำซ้ำ ยังถอดรื้อการมองประวัติศาสตร์แบบเดิม ๆ โดยปฏิเสธการมองประวัติศาสตร์เป็นเส้นตรงที่ไร้รอยต่อ ตรงกันข้ามเธอตั้งใจพาไปในจุดแตกหักในแต่ละทางแยกของประวัติศาสตร์ทุน การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงมีทั้งไปเดินข้างหน้าและเดินถอยหลังในประวัติศาสตร์อันคดเคี้ยว กระทั่งแสวงหาและนัดพบกลุ่มคนที่ใส่ใจให้แมวเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์จริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ “สัญลักษณ์” อย่างดาษดื่น

ยิ่งถ้าเรามองไปที่แมว ก็จะเห็นประวัติศาสตร์นั้นไม่ได้มีสีเดียว เหมือน ๆ กับแมวสามสีที่สื่อถึงคนชายขอบในสังคมที่พยายามต่อสู้เพื่อโลกใบใหม่ หรือบางขณะ แมวดำก็กำลังฉายภาพประวัติศาสตร์ทางเศรษฐกิจทั้งในเชิงสัญลักษณ์ และหลักฐานในอดีตที่เคยถูกผลักไสให้เป็นตัวแทนของปีศาจในยุคกลาง ท้ายที่สุด ชาวยิว / นักปรัชญา /ผู้หญิง และคนกินมังสาวิรัตล้วนถูกสาปให้เป็นแมวอย่างน่าอดสู แต่ในพ.ศ.นี้  เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว

ไม่รู้สิ! ฉันบอก รัก แมวอ้วนไปสองครั้ง

แต่เธอตอบกลับมาว่า “แง่ว” คำเดียวในเช้าวันศุกร์ พอตกค่ำก็เอาหัวมาถูแขนแสดงอาณาเขตทางกลิ่น ในนามความเป็น “อิสระ” ทุกกลางเดือนมันจะปรากฏตัวในฐานะนักปรัชญากับปมปริศนาเงินเดือนล่องหน และความโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ ฉันพึมพำกับตัวเอง และหันไปหาแมวจรสักตัวใต้คอนโดฯเพื่อบอก กู๊ดไนท์ ก่อนเที่ยงคืน

แมวส้ม ตัวเดียวกันกับที่ฟังนกกางเขนร้องประสานเสียงในตอนเช้า วิ่งและกระโดดลับเล็บด้วยท่าเหยียดยืนสองขายันลำต้นกาสะลอง หน้าระรื่น มันทำอย่างนั้นซ้ำ ๆ อยู่บ่อยครั้ง แม้เพื่อนบ้านบางคนจะแผดเสียง สั่งให้หยุด!

ครืดดดดด เกร๊ก!

“อะไรวะเนี่ย” ใครคนนึงพูด

แมวอีกตัวฮึกเหิม กระโดดสูงไปอีก!

คำปลุกเร้า ปลายเปิดของอภิปรัชญาแห่งชีวิตและสรรพสิ่ง พ้นจากประโยคนั้น ไม่ว่าคุณจะบังเอิญเปิดผ่านไปหน้าไหนของหนังสือเล่มนี้คุณก็จะพบกับนักปฏิวัติสักคนหรือพันธมิตรแมวสักตัว หนึ่งในนั้นคือนักปฏิวัติชาวรัสเซียผู้รักแมว วลาดิมีร์ เลนิน เขาหยิบยกแนวคิดของการก้าวกระโดดให้เป็นทั้งภาพของการเปลี่ยนผ่านทางประวัติศาสตร์และการปลุกสังคมให้ตาสว่าง ในสมุดบันทึกของเลนินที่อุทิศให้กับหนังสือ The Science of Logic จึงเต็มไปด้วยคำว่า ก้าวกระโดด อยู่ซ้ำ ๆ

LEAP

LEAP

LEAP

LEAP

สี่ตัวอักษรถูกเปิดเผยราวกับขูดรหัสลับจากฝาเครื่องดื่มชูกำลังว่า การก้าวกระโดดสำคัญอย่างไรต่อการทำความเข้าใจวิภาษวิธีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างถอนรากถอนโคน สิ่งใหม่ก้าวกระโดดออกมา การอ่านงานของเลนินก็เป็นการยืนยันความจริงเช่นนั้น กลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ไร้ระเบียบ ไม่ลงรอยกับอำนาจรัฐและความยากจน ทั้งยังสงสัยครุ่นคิดไปกับรุสโซว่าผู้คนที่มีฐานะต่างกันขนาดนั้นจะมีอะไรติดค้างต่อกันในชีวิตบ้าง? สังคมที่ไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจจะสร้างความเท่าเทียมทางการเมืองได้อย่างไร แล้วทำไมมนุษย์จะก้าวข้ามความรักตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาปรารถนา และท้ายที่สุดนำพวกเขาบางคนไปสู่ทรราชได้อย่างไร

“มนุษย์เกิดมาโดยเสรี แต่ทุกหนแห่งกลับถูกโซ่ตรวนล่ามไว้” คำประกาศอันโด่งดังในหนังสือสัญญาประชาคมของรุสโซ ในหนังสือเปิดเผยให้เห็นความสัมพันธ์ของมนุษย์กับแมว เสมือนดัชนีชี้วัดความอ่อนไหวต่อเสรีภาพและทรราชของพวกเขา นักปรัชญาและนักเขียนชาวสก็อต เจมส์ บอสเวลล์ เล่าถึงตอนที่รุสโซถามเขาว่า ชอบแมวไหม ซึ่งเขาตอบว่า ไม่ชอบ รุสโซ ยืนกรานว่า คนที่ไม่ชอบแมวนั้นมักจะมีสัญชาตญาณของเผด็จการ

“พวกเขาไม่ชอบแมว เพราะว่าแมวนั้นเสรีและไม่ยอมเป็นทาสใคร

แมวจะไม่ทำตามคำสั่งของท่านเหมือนกับสัตว์ตัวอื่น” รุสโซพูด

บอสเวลล์ ตอบโต้ ไก่ตัวเมียก็ไม่ทำตามคำสั่งของมนุษย์เหมือนกันแหละ

“ไก่ตัวเมียจะทำตามคำสั่งท่านหากท่านทำให้นางเข้าใจคำสั่งได้

แต่แมวจะเข้าใจท่านอย่างดีเลิศ แต่ก็จะไม่ทำตามคำสั่งอยู่ดี” รุสโซ ตอบเขาอย่างนั้น

แม้เสือยิ้มยากอย่างฉันยังขำตัวโยก เพราะเคยลองดีกับแมวบ้านและแมวจร ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่รุสโซว่าไว้ไม่มีผิด

ฉันเอาตัวขวางทางเดินสลิด สหายแมวจร บางขณะ เธอเคลื่อนไหวในหนึ่งแรงเทียน บ้างก็ล้มลงข้าง ๆ เหยียดยืดไปข้างหน้าด้วยท่าพิลึกพิลั่น และครั้งนึงมันเคยกระโดดไปยังอดีต เหมือนย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ปฏิวัติระบบทุนนิยม- การลุกฮือของชาวนาในยุคกลาง ไม่ว่าจะเปิดอ่านหน้าไหนก็ได้คิดและได้ตั้งคำถาม ไม่ต่างจากเจอแมวโดยบังเอิญที่ทึกทักไปว่า เธอก้าวหน้า บ้าบิ่น คาดเดาไม่ได้ เธอร่าเริง —เธอก้าวกระโดด โดยไม่ละทิ้งการกินมังสาวิรัติของตนเองไป

เรื่อง: ภัทราภรณ์ ศรีทองแท้

ภาพ: จันจิรา ทาใบยา

Playread: Marx For Cats
ผู้เขียน: Leigh Claire La Berge
ผู้แปล: ดาวฤกษ์ วังส์ด่าน
สำนักพิมพ์: สำนักนิสิตสามย่าน

PlayRead: คอลัมน์รีวิวหนังสือประจำ Decode.plus เมื่อกองบรรณาธิการขอ add หนังสือ (ที่อยากอ่าน) ไว้ในเพลย์ลิสต์ พบกับหนังสือหลากหลายสไตล์ หลากหลายวิธีการเล่าเรื่องที่เชื่อมร้อยกับชีวิตและสังคม แวะมาหาอ่านกันได้ทุกเย็นวันพฤหัสบดี