(ขอให้)โลกนี้หมุนรอบแมว
Reading Time: 3 minutesการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน แม้กระทั่งแมว เรื่องราวของ 'เจ้าหลง' แมวเกือบขาวจากเมืองปาย ที่หลงเข้ามาในชีวิตของ ปราย พันแสง ก่อนที่โลกของคนที่ไม่เคยเลี้ยงแมวและแมวจรจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ไอ่เกาะรูปหัวใจน่ะหรอ! แต่ไม่ใช่ ‘แทสเมเนีย’ ในความหมายของหนังสือเล่มนี้ สำหรับฉันมันคล้ายอุปมามากกว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่จริง ๆ ในโลกที่ เปาโล จอร์ดาโน (Paolo Giordano) อาจกำลังตามหาที่ปลอดภัยสักแห่ง —อย่างน้อยก็ปลอดภัยจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน รุนแรง คาดเดาไม่ได้และเขาเองก็หมกมุ่นอยู่กับ “หายนะ” ความพังโดยลำพังมันก็แย่อยู่แล้ว ในโลกที่ซีกโลกหนึ่งคนตายเพราะขาดน้ำ ขณะที่อีกซีกโลกนึงตายเพราะน้ำท่วม

ไม่รู้สิ ความพังพินาศสำหรับฉันมันไม่ใช่เรื่องของชะตากรรม บ่อยครั้งความล้มเหลวของรัฐที่ไร้น้ำยาก็ยิ่งซ้ำเติมหายนะให้วินาศสันตะโร มันอาจทำให้คุณ / ฉัน โดดเดี่ยวและร่วงหล่นไปในหลุมดำอย่างเงียบ ๆ ราวกับใบไม้ร่วงเมื่อหนาวแรกมาถึง
แทนที่จะยอมจำนน เขากลับออกไปตามหาผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณูเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ เพราะสิ่งที่เหลืออยู่อาจเป็นรังสี ใช่! เขาอาจพูดถูก “ผู้ตายก็คือรังสี” และร่างกายของมนุษย์ก็ประกอบไปด้วยอะตอมนับพันล้านอะตอม ทั้งไฮโดรเจน ออกซิเจนและคาร์บอน แต่ในจำนวนที่น้อยกว่านั้นมีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียม ลิเทียม ซีเซียม แม้แต่ยูเรเนียม เมื่อร่างกายกลายเป็นผุยผงแล้วอะตอมของแร่ธาตุต่าง ๆ ยังคงหลงเหลืออยู่ และอะตอมที่ไม่เสถียรจะแผ่รังสีออกมาเป็นรังสีอัลฟา รังสีเบตา รังสีแกมมา นิวทริโนเคลื่อนที่ผ่านสสารไปสู่ภายนอกได้สบาย ๆ และอยู่นานนับพัน ๆ ปีด้วย หากจริงตามนั้น ภายใต้รูปทรงของรังสีนั้นยังมีคนตายทุกคน ทุกคนในอดีตและทุกคนในปัจจุบันกำลังเคลื่อนผ่านตัวเขาเพื่อหวังว่าตนเองจะจมอยู่กับรังสีอย่างไม่ลืมหูลืมตา เมื่อพูดถึงการสูญพันธุ์ของมวลมนุษยชาติจากน้ำมือมนุษย์
หรือทั้งหมดนี้แค่หาข้ออ้างเพื่อให้เขามีเหตุผลมากพอให้ออกจาก “บ้าน” เท่านั้น
แท้จริงอาจเป็น “ภัยพิบัติ” ทางใจที่เขาเลือกจะหนีจากโลกความเป็นจริง
ภัยพิบัติชีวิตส่วนตัวของเขาเริ่มก่อรูปให้เห็นอาการผุพัง ชำรุด นานัปการของคนรอบตัวที่ดูกำลังแหลกสลายไม่ลงรอยกับทุกสิ่ง จูลิโอ สู้คดีกับอดีตภรรยา คาโรล เพื่อนของเขาซึ่งเป็นบาทหลวงตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่น่าภิรมย์ แม้แต่เพื่อนรักดาวรุ่ง โนแวลลี ชายผู้ศึกษาเรื่องเมฆ ก็พังไม่เป็นท่าเพราะตรรกะชายเป็นใหญ่ และอาจเป็นที่มาของแทสเมเนีย จากบทสนทนาระหว่างตัวละครเอกกับโนแวลลี ถ้า “ทุกอย่างพังพินาศจริง ๆ” ควรหนีไปที่ไหน
สมมติว่าต้องหนี หากถึงวันสิ้นโลก
โนแวลลี เพื่อนสนิทของเขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดถึง แทสเมเนีย มันอยู่ห่างลงไปทางใต้มากพอที่ปลอดภัยจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด มีน้ำจืดปริมาณมาก อยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีผู้ล่ามนุษย์ มันไม่เล็กเกินไป แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเกาะจึงป้องกันตัวได้ง่าย เพราะจะมีเหตุให้เราต้องป้องกันตัว คุณเชื่อผมสิ
ถ้าต้องหนีเอาตัวรอดจริง ๆ ผมจะเลือกไปที่แทสเมเนีย ฉันเดาว่าเขาทึกทักไปเอง
แม้ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นชีวิตจริงของจอร์ดาโน หรือตัวละครในเรื่องก็ตาม ถึงอย่างนั้น ฉันจะหาแทสเมเนียให้เจอ
มากกว่านั้นมันเป็นงานเขียนที่โครงสร้างซับซ้อน และเปิดกว้างต่อการตีความของผู้อ่าน เพื่อสำรวจโลกข้างนอกที่กำลังพังพินาศไปพร้อม ๆ กับความผุพังแหลกสลายภายในมนุษย์ และต้องสะดุดกับคำว่า irrealiste ในเครื่องหมายวงเล็บว่า ไม่อยู่กับความเป็นจริง และอีกหลายเรื่องราวของชีวิตที่คาดเดาไม่ได้เหมือนโลกรวน ถูกถักทอเข้าด้วยกันอย่างประณีต คาดเดาได้ยาก และด้วยสำนวนแปลของ นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ ที่เรียบง่ายแต่บาดลึก
บางขณะก็หยุดคิดถึงคำถามจากคำตอบที่แสร้งไม่รู้ไม่ชี้ คล้ายเรือที่หันหน้าเข้าหาพายุอย่างบ้าคลั่ง เหมือน ๆ กับผู้เขียนที่กำลังหาทางลงให้กับพารากราฟสุดท้ายของวิกฤติชีวิต ฉันจึงไม่อาจรู้ได้ว่าการตามหาแทสเมเนีย เพื่อหลบภัยโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่า…มันมีอยู่จริงไหม
ผมจะเป็นนักเขียนที่เล่าประสบการณ์ที่ไม่เคยมีอยู่ได้อีกนานแค่ไหน การเขียนหนังสือได้นั้น ก่อนอื่นต้องใช้ชีวิตอย่างบ้าคลั่งมิใช่หรือ แต่ผมมักจะหยุดที่จุดนี้เสมอ และหาทางให้มีความคิดอื่น ๆ มาปะปน หันเหจากความสนใจของผมไปจากคำตอบของเรื่องให้ได้มากที่สุด
จังหวะชีวิตอันโดดเดี่ยวของนักวิทยาศาสตร์ที่กลายเป็นนักเขียน ดำเนินไปในความสัมพันธ์รอบตัวที่ตีบตันและแตกสลายทั้งเพื่อนเนิร์ด ๆ ของเขาในหมู่นักวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ รวมถึงภรรยาผู้เป็นที่รักและยากจะคืนดี แม้จะมีความพยายามมีลูกด้วยกันอยู่ราว ๆ สามปี ก็ต้องรับบทเป็นเหยื่อที่ทุกข์ใจอย่างไร้เหตุผล

ใครก็ตามที่เคยอ่านนิยายเล่มแรก “ความโดดเดี่ยวจำนวนจำเพาะ” (The Solitude of Prime Numbers) มาแล้วก็พอจะนึกโจทย์ชีวิตที่ซับซ้อนกว่าปัญหาคณิตคิดเร็ว หรือยิ่งกว่าค้นหาเลขจำนวนเฉพาะที่มากที่สุดเสียอีก “แทสเมเนีย” ก็ไม่แผ่ว มันจึงไม่ใช่หนังสือท่องโลกกว้าง หรือนิยายรักโรแมนติก-ไซไฟ และยิ่งไม่ใช่ประวัติศาสตร์ของหายนะทางสภาพภูมิอากาศ
อีกหลายแง่มุม แทสเมเนีย อาจจัดเป็นหนังสือวิกฤติวัยกลางคนที่มาก่อนกาลของคนที่หมกมุ่นกับ “หายนะ” ในยุคสมัยของเราที่ดูเหมือนภัยพิบัติจะหักเลี้ยวเข้ามาในชีวิต หรือดักรอเราอยู่หน้าประตู อยู่ทุกมุมถนนที่คุณออกเดินทางโดยที่คุณหรือฉันก็ไม่อาจพึ่งพารัฐที่ล้มเหลวในการจัดการภัยพิบัติได้เลย และไม่ใช่ฉันหรือเขาที่รู้สึกหดหู่ สิ้นหวัง —นักวิทยาศาสตร์อีกจำนวนมากก็กำลังป่วยไข้อยู่เขาวงกตของชีวิต มันเป็นงานศึกษาสภาพจิตใจของผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศอย่างพวกเรานี่แหละ เพื่อนเขาค่อย ๆ สรุป “พวกเราเป็นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์ต่าง ๆ มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง ก็แน่นอนอยู่แล้ว นักจิตวิทยาเรียกมันว่า ‘ภาวะเครียดก่อนเหตุการณ์’ (pre-traumatic stress disorder) หรือไม่ก็ ‘กลุ่มอาการคาสซานดรา’ มันคือสิ่งที่เรารู้สึกทุกครั้งที่เห็นกราฟใหม่บนหน้าจอ แล้วมองเห็นอนาคตอยู่ในกราฟนั้นด้วย และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเวลาเราพยายามนำข้อมูลนี้สื่อสารกับผู้คน สื่อมวลชน และผู้มีอำนาจได้รับรู้ ถ้าคุณอยากให้ผมอธิบายยุคสมัยที่เราอยู่นี้ให้กระชับที่สุด ผมนึก “คำ” ไหนไม่ออกเลยนอกจากนี่คือ ยุคก่อนหายนะ”
บางทีพวกเขาอาจกำลังบอกเราอย่างเงียบ ๆ — หาที่ปลอดภัยของตัวเองและประคองความสัมพันธ์นั้นไว้ ซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน — ทั้งโดดเดี่ยว ขมขื่น หรือเราอาจ ผุพัง “ชำรุด” พอกัน


Playread : Tasmania
ผู้เขียน : Paolo Giordano ผู้แปล : นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ
สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี
PlayRead : คอลัมน์รีวิวหนังสือประจำ Decode.plus เมื่อกองบรรณาธิการขอ add หนังสือ (ที่อยากอ่าน) ไว้ในเพลย์ลิสต์ พบกับหนังสือหลากหลายสไตล์ หลากหลายวิธีการเล่าเรื่องที่เชื่อมร้อยกับชีวิตและสังคม แวะมาหาอ่านกันได้ทุกเย็นวันพฤหัสบดี