เกมที่ไม่มีใครเล่นต่อ
หากจะมีนักเขียนคนใดที่สามารถปลดเปลื้องภาวะปกติสามัญของชีวิตประจำวัน แล้วผลักผู้อ่านออกจากโลกแห่งเหตุผลเข้าสู่รอยปริแตกของความจริงแบบเหนือจริง (surreality) ได้อย่างสุขุม เยือกเย็น และแม่นยำในจังหวะ จนทำให้คุณต้องหยุดลมหายใจ เพื่ออ่านข้อความถัดไปด้วยความระแวดระวัง ชื่อของ Julio Cortázar คือคำตอบ
เมื่อหยิบเล่ม Final del juego หรือ “จบเกม” ขึ้นมาอ่านอีกครั้งในปีนี้ ในประเทศที่ผู้คนยังคงยึดติดกับแพตเทิร์นชีวิตและนิยายตามสูตร ผมพบว่าวรรณกรรมเรื่องสั้นของกอร์ตาซาร์ไม่ได้ล้าสมัยเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันยิ่งทำหน้าที่เตือนเราถึงสิ่งที่เรากำลังสูญเสียไปในโลกสมัยใหม่ : ความงามของความผิดปกติ ความลื่นไหลของตัวตน และอิสรภาพในการจินตนาการ
Play Read ค่ำคืนนี้ ผมอยากพาผู้อ่านเดินเข้าสู่โลกของกอร์ตาซาร์ ผ่านเรื่องสั้นในเล่มนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนเขตแดนของจิตสำนึก ระหว่างความจริง ความฝัน ความกลัว ความปรารถนา และความว่างเปล่า

Final del juego : จบเกม
เรื่องที่ใช้เป็นชื่อรวมเล่มพาเราไปพบเด็กหญิงสามคนซึ่งเล่นเกมแสดงท่าทางเป็นรูปปั้นต่าง ๆ ริมทางรถไฟให้ผู้โดยสารบนขบวนมอง พวกเธอชื่อ Holanda, Leticia โดยเล่าเรื่องผ่านตัวละครไร้นาม แต่ละวันคือการสร้าง “ท่าทาง” ซึ่งอิงจากการจับฉลากที่พวกเธอทำขึ้น บางวันเป็นเทพีสันติภาพ บางวันก็เป็นรูปปั้นจีน
เกมของพวกเธอเปลี่ยนไปเมื่อชายหนุ่มชื่อ Ariel เริ่มเขียนจดหมายส่งผ่านหน้าต่างรถไฟถึง Leticia เด็กหญิงที่ร่างกายพิการ แต่ทว่ามีเสน่ห์เร้นลับอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ แต่สองคนที่เหลือก็รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ที่ Leticia เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับจดหมายจากเด็กชายหนุ่มคนนี้ที่นั่งรถไฟกลับทางเดิมทุกวัน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้กล่าวพูดอะไรต่อ Leticia เพราะคิดว่า เพียงแค่ ความพิการบนร่างกายของเธอ ก็เป็นความเจ็บปวดเกินพอแล้ว
วันหนึ่ง Ariel ส่งจดหมายมาว่า พรุ่งนี้จะลงที่สถานีถัดไป แล้วเดินย้อนมาหาพวกเธอ แถมยังชมถึงความงดงามของพวกเธอทั้งสาม แต่กลับเป็นว่า วันนั้นเป็นวันที่ Leticia ไม่ยอมไปที่ริมทางรถไฟ เหลือเพียงแค่ Holanda กับเด็กผู้หญิงอีกคน ชายหนุ่ม Ariel เอาแต่ถามหา Leticia และพูดถึงความงดงามของเธอเป็นพิเศษ ทั้งสองคนเก็บเรื่องนี้มาเล่าให้ Leticia ฟัง ทั้งที่ข้างในเต็มไปด้วยความอิจฉา แต่สุดท้าย Leticia ก็ขอเป็นคนเล่มเกมนี้ในวันถัดไป ทันใดที่รถไฟผ่าน สายตาของ Ariel จ้องมอง Leticia จนสุดทาง

แต่นั่นก็เป็นวันสุดท้าย ที่ทุกคนได้เห็น Ariel หลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้นั่งที่หน้าต่างบานที่สามของรถไฟขบวนนี้อีกต่อไป แม้จะเริ่มต้นด้วยการเล่นเกมที่แสดงท่าทาง ผลัดเปลี่ยนกันไปตามการจับฉลาก แต่ทั้งสามคนก็ไม่มีใครคิดตั้งแต่แรกเริ่ม ว่าเกมริมรางรถไฟ จะพาให้ได้พบกับใครสักคน ที่จากไปโดยไม่หวนคืน
นี่คือเรื่องของการเติบโตที่มาพร้อมกับการถูกจ้องมอง และการที่โลกภายนอกเข้ามาเปลี่ยนภาวะของเกมให้กลายเป็นความจริง ความรู้สึกถูกเลือก ถูกละเลย เป็นอารมณ์ที่ผู้หญิงหลายคนอาจรู้จักดี แต่กอร์ตาซาร์สามารถเขียนออกมาได้โดยไม่ต้องโวยวาย หรือฟูมฟายเลยแม้แต่น้อย
La noche boca arriba : รอยเลื่อนระหว่างความจริงกับความฝัน
ผู้ชายคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ แล้วถูกพาเข้าโรงพยาบาล เขาหลับตาเพียงชั่วครู่ กลับพบว่าตัวเองอยู่ในป่าของชาวแอซเท็ก ทั้งตอนที่โดนหามขึ้นรถ ยันจนเข้าเครื่องถ่ายเอ็กซเรย์ ซึ่งก็อยู่ในช่วงที่เบลอ จนกว่าจะแยกระหว่างความจริงกับความฝันออกจากกัน

คำถามที่วนอยู่ในหัวของเขา ว่านี่คือ ความจริง หรือ ความฝัน เพราะนี่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด และกลิ่นโรงพยาบาลทั้ง ๆ ที่ ความฝันไม่น่าจะมีกลิ่น แต่ก็ดูเหมือนว่านี่จะเต็มไปด้วยความดิบเถื่อน เพราะขณะกำลังจะขึ้นเตียงผ่าตัด เขาก็รู้สึกว่าคุณหมอกำลังเอามือตบหน้าเขาอยู่ จนแล้วจนรอดก็ยอมจำนนว่า ตัวเองกำลังตกอยู่ในความฝันที่สมจริง ความฝันที่คล้าย ๆ กับการอยู่กลางดงสงครามที่ต้องเอาตัวรอด เขาได้แต่เพียงแค่ทำตัวให้นิ่งที่สุด จนกว่าช่วงเวลานี้จะผ่านไป
ในอีกขณะหนึ่ง เขาตื่นขึ้นในห้องโรงพยาบาล และไม่แน่ใจว่าสิ่งใดคือความจริง สิ่งใดคือความฝัน จนพยาบาลบอกว่า “อย่าขยับดิคุณ ระวังจะตกเตียงเอานะ” พลันทำให้เขารู้สึกว่า ได้หลุดพ้นจากฝันอันแสนยาวนาน ท่ามกลางกลิ่นที่คละคลุ้งไปด้วยคาวเลือด และกลิ่นที่พบเจอได้ตามโรงพยาบาล
เมื่ออ่านมาถึงตอนจบ กอร์ตาซาร์หักมุมอย่างเงียบเชียบ โดยให้เราตระหนักว่า ความฝันที่ดูเหมือนฝัน อาจเป็นความจริงที่เขาไม่เคยตื่นจากมันเลย

Axolotl : สัตว์ในตู้และเสียงในตัวเรา
ในพิพิธภัณฑ์ Jardin des Plantes กรุงปารีส ผู้ชายคนหนึ่งไปเยี่ยมดูสัตว์น้ำชื่อ axolotl (ซาลามานเดอร์เม็กซิกัน) ทุกวันจะจ้องมองมันด้วยความลุ่มหลง จนกระทั่งวันหนึ่ง เขากลายเป็นมัน
ไม่ใช่ด้วยเวทมนตร์ ไม่ใช่ด้วยความรุนแรง แต่ด้วยการกลายผ่านทางจิตใจ เขาเล่าว่า “ตอนนี้ฉันอยู่ในตู้ มองออกไปยังชายคนนั้นที่เคยเป็นฉัน”
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอย่างชัดเจนที่สุด คือการรู้สึกว่า axolotl แทบที่จะไม่มีความต่างกับมนุษย์ ในด้านกายภาพ เพราะมีชีวิตหายใจ และดับสูญ แต่สิ่งที่ผู้ชายคนนี้ชวนชี้ให้เห็นถึงความต่าง คือสายตาและจิตวิญญาณของความเป็นนักล่าในตัวมนุษย์ เพราะขณะมองจากตู้กระจก สายตามนุษย์ที่จ้องมอง ราวกับอยากจะกินให้ได้ ทั้ง ๆ ที่สัตว์ชนิดอื่นหากไม่ใช่สายพันธ์แห่งนักล่า ก็ไม่มีทางที่จะเป็นนักล่า ชายคนนี้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “หรือมนุษย์จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการล่า”
ไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนว่าความกลายร่างนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือทั้งหมด คือเสียงของจิตใต้สำนึกของตัวละครที่แยกตัวออกมาพูดกับเรา

Continuidad de los parques : นักอ่านที่กลายเป็นเหยื่อ
ชายคนหนึ่งนั่งลงอ่านนวนิยายในบ้านอันเงียบสงบ หย่อนกายลงในเก้าอี้หนัง โอบล้อมด้วยเสียงนก เสียงลมและเสียงของเรื่องเล่าที่เขากำลังอิน
นิยายที่เขาอ่าน คือเรื่องราวของคู่รักต้องห้ามที่วางแผนสังหารชายอีกคนหนึ่ง
ทันใดนั้น ในย่อหน้าสุดท้ายของเรื่อง… มีการอธิบายว่า คนรักสาวนำชายคนใหม่เข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง และพาเขาไปที่ “ห้องที่มีเก้าอี้หนัง ที่ชายคนนั้นกำลังอ่านหนังสืออยู่”
กอร์ตาซาร์เขียนเรื่องนี้ในหน้าเดียว แต่สามารถสั่นคลอนเส้นแบ่งระหว่างโลกของผู้สร้างเรื่องกับผู้อ่านได้อย่างรุนแรง มันไม่ใช่เพียงการหักมุม แต่คือการทำลายระเบียบของการอ่านในแบบที่เราคุ้นชิน เราไม่ได้อ่านนิยายอีกต่อไป เรากำลังเป็นส่วนหนึ่งของมัน
จบเกมของการอ่านแบบเดิม ๆ
การอ่านกอร์ตาซาร์ไม่ใช่การเสพเนื้อหา แต่คือการยอมให้ตัวเรา ละลาย เข้าไปในบริบทของเรื่องเล่า ไม่ใช่เพื่อตอบคำถาม แต่เพื่อยืนอยู่กลางคำถามนั้นอย่างสงบ
ในโลกที่เราถูกบังคับให้คิดเป็นเส้นตรง เข้าใจเร็ว ตัดสินเร็ว นิยายของกอร์ตาซาร์ คือการโต้กลับอย่างสุขุม : ช้า ลึก เงียบ และไม่จำเป็นต้องสรุป
Final del juego อาจแปลว่า “จบเกม” — แต่แท้จริงแล้วคือการเริ่มต้นของเกมใหม่ ที่ไม่มีใครบอกกติกา ไม่มีใครบอกว่าคุณกำลังเล่นอยู่ และไม่มีใครบอกว่า คุณจะ “ชนะ” ได้อย่างไร
แต่สิ่งที่แน่ชัด คือคุณจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีกเลย หลังจากพลิกหน้าสุดท้ายของเล่มนี้

Playread : จบเกม (Final del juego)
ผู้เขียน : ฆูลิโอ กอร์ตาซาร์
แปล : สว่างวัน ไตรเจริญวิวัฒน์
สำนักพิมพ์ : ผีเสื้อสเปน
PlayRead : คอลัมน์คิด/อ่านหนังสือประจำ Decode.plus เมื่อกองบรรณาธิการขอ add หนังสือ (ที่อยากอ่าน) ไว้ในเพลย์ลิสต์ พบกับหนังสือหลากหลายสไตล์ หลากหลายวิธีการเล่าเรื่องที่เชื่อมร้อยกับชีวิตและสังคม แวะมาหาอ่านกันได้ทุกเย็นวันพฤหัสบดี