ศีลธรรมแบบเลือกจำ : ว่าด้วยการลืมอย่างสะดวกของฝ่ายอนุรักษนิยม
Reading Time: < 1 minuteการลืมอย่างสะดวกของฝ่ายอนุรักษนิยม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เหตุการณ์ทางการเมืองที่รุนแรง แต่แทรกซึมอยู่ในกระบวนการทำงานของระบบราชการ และการเมืองในทุกระดับ
Reading Time: < 1 minuteการลืมอย่างสะดวกของฝ่ายอนุรักษนิยม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เหตุการณ์ทางการเมืองที่รุนแรง แต่แทรกซึมอยู่ในกระบวนการทำงานของระบบราชการ และการเมืองในทุกระดับ
Reading Time: 3 minutesคนทำงาน ฉัตรชัย พุ่มพวง สายธารการลุกขึ้นสู้และชัยชนะของขบวนแรงงานในสังคมไทย ในยุคต้นสมบูรณาญาสิทธิราชย์หลังจากที่ ร.5 รวบอำนาจจากเหล่าเจ้าขุนมูลนายทั่วอาณาบริเวณที่เหลือเป็นรัฐกันชนระหว่างเจ้าอาณานิคมทั้งฝรั่งเศสทั้งอังกฤษได้สำเร็จ ก่อเกิดเป็นรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ขึ้นเป็นครั้งแรก พร้อมกันนั้นได้มีการยกเลิกระบบไพร่ทาสไป เนื่องจากมีแรงงานจีนอพยพได้หลั่งไหลเข้ามาในสยามจำนวนมากตั้งแต่สมัย ร.4 ทำให้ต้นทุนของระบบไพร่ทาส เริ่มที่จะแพงและไร้ประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับแรงงานรับจ้างอย่างแรงงานจีน มีการปฏิรูประบบภาษีให้รวมศูนย์มาที่กษัตริย์โดยให้ทุกคนจ่ายภาษีแทนการเรียกเกณฑ์แรงงานบังคับ เมื่อสัดส่วนของแรงงานจีนในสังคมสยามมีมากขึ้น ๆ ปัญหาเรื่องสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ จึงเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ปกติแล้ว เมื่อคนจีนอพยพไปอยู่ที่ไหนในโลก ก็จะมีการพยายามรวมกลุ่มกัน เป็นที่มาของคำว่า “อั้งยี่” ที่เป็นคำใช้เรียกองค์กรของแรงงานจีน ซึ่งจริง ๆ แล้วทำหน้าที่คล้ายกับสหภาพแรงงานเพื่อต่อรองกับรัฐและทุนนั่นเอง กุลีจีนเหล่านี้เป็นแรงงานกลุ่มแรก ๆ ที่สไตร์คหยุดงานในสยาม ไม่ว่าจะเป็นแรงงานจีนในเหมืองที่ภาคใต้ หรือ กุลีลากรถและกรรมกรแบกข้าวสารในพระนคร ช่วงแรกรัฐบาลสมบูรณาฯ ก็รู้สึกสะดวกในการดีลกับผู้นำของอั้งยี่ทำให้ควบคุมจัดการพวกแรงงานจีนทำได้ง่าย แต่พอนานไปเข้าก็รู้สึกได้ถึงอำนาจต่อรองที่มากเกินไป เพราะมีเหตุการณ์ที่แรงงานจีนเหล่านี้สไตร์คหยุดงาน จึงทำให้ต้องออกกฎหมายอั้งยี่ซ่องโจรออกมา เพื่อกดปราบแรงงานจีนเหล่านี้ เมื่อเกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรในปี 2475 ขบวนแรงงานในสังคมไทยก็เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ บางยุครวมตัวกันได้อย่างแข็งขัน บางยุคถูกฝั่งรัฐและทุนโต้กลับกดปราบ โดยเฉพาะยุคเผด็จการสฤษดิ์ ถนอม ประภาส ที่มีการใช้มาตรา 17 ประหารสุภชัย ศรีสติ ผู้นำแรงงาน […]
Reading Time: 3 minutes“แม่ผมมีร้านขายของในกรมทหารที่สนามบินน้ำ ผมช่วยแม่ขายของ” ประเวศเล่า “ช่วงนั้นทหารเขาปิดไม่ให้คนเข้าออก แล้วก่อนหน้านั้นมันก็มีการชุมนุมมาเรื่อย ผมอยากไปแต่ก็ไปไม่ได้เพราะเขาไม่ให้ออกจากค่ายทหาร พอมาถึงวันนั้นมันเป็นวันอาทิตย์ วันหยุด ผมแอบมุดรั้วหนีออกไปจนได้ ก็ไม่รู้อะไรมันดลใจให้ออกไป” แล้วประเวศก็ยกเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนั้นให้เป็นเรื่องของการที่ “คนมันจะโดนยิงน่ะ”
Reading Time: 3 minutesเพราะการสะสางอดีต ไม่ใช่เพื่อให้เราก้าวข้ามโดยไม่สนใจความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่เป็นการมองเพื่อที่เราจะได้เดินไปอย่างมั่นคง ต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นโดยชนชั้นนำต่างหาก
Reading Time: 3 minutesในวาระครบรอบ 46 ปี 6 ตุลา โครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ 6 ตุลา-October 6 Museum Project ได้กลับมาจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อีกครั้งในชื่อ “6 ตุลา เผชิญหน้าปิศาจ” (Oct 6: Facing Demons) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ปิศาจซ่อนอยู่ในรายละเอียด” ซึ่งเป็นการรวบรวมภาพถ่ายร่วมสมัยกับเหตุการณ์ครั้งนั้นมาจัดแสดง
Reading Time: 3 minutes6 ตุลากำลังจะครบปีที่ 46 อีกครั้ง “อยากให้เราสนใจคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ '6 ตุลา' ในฐานะปัจเจกบุคคล ไม่อย่างนั้นเราก็จะจดจำมันแค่ตัวเลข”
Reading Time: 3 minutesชวนอ่านเรื่องราวนิทรรศการของคนตัวเล็กๆ ของประวัติศาสตร์กระแสรอง เรื่องราวที่ไม่ได้อยู่ในแบบเรียน ใน The battle wound และกล่องฟ้าสาง
Reading Time: 3 minutes"ผมว่าการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งมีความขัดแย้ง ที่ไหนมีความขัดแย้ง ที่นั่นคือที่ที่มีชีวิต ความขัดแย้งมันอยู่ในตัวเราตลอด ที่ไหนไม่มีความขัดแย้งที่นั่นคือตายแล้ว" ฟังเผิน ๆ หลายคนอาจจะตีความว่าประโยคนี้คงหนีไม่พ้นซ่อนประเด็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่กำลังร้อนแรงทะลุปรอทอยู่ขณะนี้เป็นแน่ แต่ไม่ใช่สำหรับ “ธงชัย อัชฌายกชาติ” หรือ เดี่ยว นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่กำลังสะท้อนให้เห็นว่า เหตุใดการเปิดพื้นที่ให้ถกเถียงในห้องเรียนประวัติศาสตร์จึงควรเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นห้องเรียนที่รอการหายไปเท่านั้น