ยุคสมาร์ตโฟนที่ไม่เฮลตี้ทางใจ
Reading Time: 2 minutesเพราะ Anxious Generation ไม่ได้จำกัดแค่อายุของ Gen Z แต่เป็นใครก็ได้ในยุคนี้ที่ป่วยไข้ทางใจไปกับการวิตกกังวล
เชื่อไหมว่า แมวจะเป็นฆาตกรได้
เชื่อไหมว่า แมวสามารถสะกดจิตคนได้
เชื่อไหม…เชื่อไหมว่า แมวจะเป็นเครื่องมือสังหารได้
“แมวเหมือนนายพลบ้าอำนาจ คิดจะครองโลก”
ท่อนหนึ่งในหนังสือที่ผู้เขียนว่าไว้…คนอ่านอย่างเรา พยักหน้าเห็นด้วยคล้อยตาม
หน้าปกชวนหยิบด้วยสีส้มแดงสดใส แมว 2 ตัวบนปกหน้า อีก 2 ตัว บนปกหลัง และข้าวของระเกะระกะที่ดูแล้ว น่าจะเกิดจากการกระทำของพวกแมว 4 ตัวนี้นี่แหละ แก้วกาแฟหก แจกันเอียง สิ่งของอะไรสักอย่างที่ดูเหมือนจานแตก หรือกระดาษที่ยับเยิน ทั้งหมดถูกจัดวางได้ลงตัว สอดรับกับจินตนาการของผู้อ่านที่มีความรู้สึกร่วมกับแมวได้เป็นอย่างดี เป็นภาพกราฟิกที่ให้ความรู้สึกเหมือนเห็นการกระทำของแมวตัวเป็น ๆ วิ่งวนอยู่ในหัวแล้ว
คนในวงการทาสแมวก็คงบอกว่า…โดนเจ้าสามสีอ้วนกลมตกเข้าให้แล้วล่ะ
สามสี คือลักษณะสีที่ปรากฏบนตัว ไม่ใช่พันธุ์แต่อย่างใด
สามสี พบได้ในแมวทุกพันธุ์
สามสี ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสีส้ม สีดำ และ สีขาว บนตัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริง แมวจะมีหลากหลายสี เช่น ช็อกโกแลต, น้ำเงินเข้ม, เทา และครีม สีเหล่านี้เกิดจากการผสมกันของสีหลักทั้งสาม
สามสี ถือเป็นแมวมงคล แมวนำโชค โดยเฉพาะญี่ปุ่น ลักษณะที่โดดเด่น และพบยาก จึงทำให้แมวสามสีเป็นแมวที่น่าค้นหา น่าสนใจมาตั้งแต่โบราณ
สามสี 99% เป็นเพศเมีย ส่วนโอกาสที่จะเจอแมวสามสีตัวผู้ คือ 1 ใน 3,000 ของแมวสามสีเท่านั้น
เพราะสีดำ และสีส้มของแมวจะอยู่บนโครโมโซม X1 สี ต่อ 1 โครโมโซม
แมวตัวเมียมีโครโมโซม XX จึงสามารถมีสีดำและส้มบนตัวเดียวกันได้
แมวตัวผู้จะมี โครโมโซมเป็น XY จึงสามารถมีสีดำ หรือสีส้มได้ เพียงสีใดสีหนึ่งเท่านั้น
แต่ถ้าแมวตัวผู้มีสามสีแสดงว่า แมวตัวนั้นมีโครโมโซมเป็น XXY ทำให้แมวเป็นหมัน และมีโรคทางพันธุกรรมต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย
สามสี มีนิสัยพิเศษคือ ซุกชน รักอิสระ และ ชอบส่งเสียงร้อง สอดคล้องกับปกหน้าปกหลังได้เป็นอย่างดี ในปกหลังนั้นมีมีดเล่มเล็กที่อาจจะสื่อไปในแนวทางการสังหารของแมวได้เช่นกัน ถือเป็นการตีความชื่อเรื่องออกมาเป็นภาพปกได้ดี และดึงดูดทีเดียว และนี่คือจุดเริ่มต้นกระบวนการสังหารขั้นแรก
เราเลี้ยงแมว 2 ตัว ด้วยความรู้สึกที่เหมือนโดนแมวสังหารเข้าให้แล้ว ตัวแรกแมวพันธุ์ อเมริกันช็อตแฮร์ ที่ลายไม่ชัดเหมือนพี่น้องตัวอื่น ๆ ถูกประกาศหาบ้านเลี้ยง เป็นไปตามคาด พฤติกรรมและลักษณะนิสัยของซิมบ้า แมวเพศผู้ตัวนี้ก็ได้สังหารจิตอันแข็งแกร่งของเราอย่างไม่ปรานี เรารับมาเลี้ยง…
อีกหนึ่งตัวคือแมวจร แมวไทยที่หลงมาติดหลังคา ทำให้คนที่เห็นก็โดนสังหารด้วยความน่าสงสาร ทนไม่ได้เลยต้องพาไปพบสัตวแพทย์ และพบว่าแมวสีน้ำตาลเพศเมียผอมโซตัวนี้ แพ้น้ำลายเห็บหมัด ทำให้แผลเต็มตัวจะหาบ้านให้ก็ต้องรักษาให้หายเสียก่อน ซิมโฟนี่ ชื่อยิ่งใหญ่อลังการตรงข้ามกับความจริงตรงหน้า เมื่อตั้งชื่อแล้วคือ การแสดงความเป็นเจ้าของโดยเจตนา ซิมโฟนี่เป็นแมวไทยขี้อ้อน ลักษณะภายนอกเธอก็ไม่ได้ชวนหลงอะไรมากมาย ฟันหลอ ขนแหว่งจากแพ้น้ำลายเห็บหมัด หางกุด ครั้งแรกเมื่อให้อาหารเปียกเธอกิน ก็กินราวกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ และส่งสายตาสังหารมาเมื่อกินเสร็จ ซิมโฟนี่น้ำตาไหล แมวร้องไห้ได้จริง ๆ นะ แม้จะมีความหยิ่งทะนงองอาจอยู่มากก็เถอะ ความไม่พอดีสมบูรณ์แบบเลยสักอย่างกลับทำให้อยากเห็นการพัฒนาการของเธอเสียด้วยซ้ำ เราโดนสังหาร กลายเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง เอาล่ะนี่คงไม่แปลกอะไรที่เราจะเลือกหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านเพียงเพราะว่ามีประสบการณ์ร่วม
หนังสือรวม 4 เรื่องสั้นของนฤพนธ์ สุดสวาท จากสำนักพิมพ์แมวฮกเกี้ยน
ทั้งผู้เขียน ทั้งสำนักพิมพ์ คงมิวายพ้นไปกับเรื่องแมว ๆ เป็นแน่ ในท้ายเล่มของประวัติของเจ้าตัวนั้นก็บอกไว้ชัดเจนว่า “มีชีวิตเพื่อรับใช้แมว”
4 เรื่องสั้นในเล่มเล็กกะทัดรัดขนาดเหมาะพกพอดีมือ ตัวหนังสือในหน้ากระดาษ 100 กว่าหน้าเท่านั้น แต่เต็มแน่นไปด้วยเนื้อหาที่ชวนจินตนาการถึงวันที่ “แมวกลายเป็นเครื่องมือสังหาร”
AI พัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุด ญี่ปุ่นมีโครงการด้านหุ่นยนต์ยาวนาน พวกเขาหวังว่า ในวันที่สังคมผู้สูงอายุมาถึงเพดานพวกมันจะอำนวยความสะดวกด้านแรงงาน แต่ปัญญาประดิษฐ์รับใช้มากกว่านั้น กองทัพให้เหตุผลสวยหรูว่าใครจะยอมตายในสนามรบ ไม่มีใครยอมหรอก
ปูพื้นเนื้อเรื่องด้วยใจความสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีได้ดี เริ่มต้นจนจบเรื่อง ไม่มีตัวละครใดหายไป หรือกลับมาอย่างไม่มีเหตุผล เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องสั้นอาจซับซ้อนมากกว่าตัวหนังสือที่บรรยายออกมาก็ได้หากได้อ่านอาจจะรู้สึกว่า นี่เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งกันแน่ ผู้เขียนหยิบจับสถานการณ์ปัจจุบันมาเทียบเคียงได้ดีทีเดียว หนึ่งเรื่องหลากอารมณ์
ใน 4 เรื่องสั้น วันที่แมวสังหาร, แมวแสนเศร้าของศตวรรษ, มิสซิสแคทกับแมวทั้งเจ็ด, จะออกไปกอดแมว ขอเล่าถึงเรื่องแรก วันที่แมวสังหาร มันอาจจะตรงกับประสบการณ์ร่วมในบางส่วน และมีมุมโรแมนติกให้เผลอยิ้มมุมปากที่เรายึดโยงใจความสำคัญเอง เป็นเรื่องความสัมพันธ์ และความเป็นมนุษย์ เรื่องสั้นนี้มีความโรแมนติกซ่อนอยู่เยอะนะ
เวียงแพ้ขนแมว ดอนไม่รู้หรอก เขากับเวียงไม่ได้สนิทกัน ประโยคเปิดเรื่องที่ชักชวนผู้อ่านด้วยการเหมือนจูงมือมาฟังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวในบริษัทที่ผลิต AI ให้กับกองทัพ ที่มีความสัมพันธ์เชิงซ้อน ในซ้อน ในซ้อนอีกที
ใจความหนึ่งที่ทำให้เราคิดตามได้อีกตอนก็คือ ดอน ตัวละครหนึ่งจากเรื่องสั้นนี้กำลังหาแมวมาเลี้ยง และลงเอยที่ทวิตเตอร์ ทำให้เราย้อนมาคิดว่า เราสามารถคุยกับใครอย่างสบายใจโดยที่ไม่เห็นหน้า ไม่รู้จักกันได้ขนาดไหน โลกออนไลน์สามารถเป็นได้มากกว่านั้น คุณสามารถหาสิ่งที่คุณสนใจได้ทุกอย่าง สามารถเริ่มต้นได้เพียงปลายนิ้วขยับ รวมไปถึงการหาแมว เลี้ยงแมว ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์เริ่มต้นได้จากโลกออนไลน์ แล้วทำไมความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์จะเริ่มจากที่นี่ไม่ได้
ดอนที่หาแมวจากทวิตเตอร์ได้พบกับที่หญิงสาวที่ปรึกษาในโลกเสมือน คุยเรื่องแมวกันมาแรมปี แต่แล้วก็มาพบความจริงว่า คือหญิงสาวที่ทำงานอยู่ด้วยกันทุกวัน แท้จริงแล้วเธออาจจะตามเขาอยู่ตลอดเวลา หรืออาจจะเป็นความบังเอิญโดยตั้งใจ หรือจริง ๆ แล้วไม่มีที่ไหนที่เป็นที่ที่ปลอดภัยเลย หากคนที่ติดตามเฝ้ามองคุณเป็นคนดี คุณก็อาจจะอมยิ้มกับการกระทำที่ดูน่ารัก แต่หากเป็นทางตรงกันข้าม คุณอาจจะไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณได้เลย
ในเรื่องนี้มีคนตาย (ไม่อยากสปอยเยอะ อยากให้ไปลองหามาอ่านกัน)
“คนที่พูดว่าไม่เป็นไร มักร้องไห้ในใจ”
ประโยคนี้เป็นประโยคที่ดอนพูดกับบุษบาในตอนที่เวียนชวนเธอไปดูหนัง บุษบาปฏิเสธ แต่เวียนตอบว่า ไม่เป็นไร และดอนได้รับคำเดียวกันนี้กลับมาเมื่อตอนที่แมวของเขาหายไป ส่วนตัวชอบเนื้อหาช่วงนี้เป็นพิเศษ การที่เราได้รับคำปลอบใจหรือคำพูดใด ๆ ของเรากลับมาในวันที่เราอาจจะลืมตัวเองไป ก็เป็นสิ่งที่เยียวยาจิตใจได้ดีเชียว ทั้งยังอาจจะทวีคูณเพิ่มไปอีก เพราะนั่นหมายความว่า เราถูกจดจำด้วยอีกคนไว้ด้วยเช่นกัน
ส่วนตัวชอบอ่านหนังสือประเภทตลกร้าย หรือมีความร้ายกาจแฝงอยู่ในตัวละครนั้น ๆ อยู่แล้ว เรื่องนี้จึงมัดใจเราได้เป็นอย่างดี การพัฒนาความสัมพันธ์ตัดสลับกับการพัฒนาหุ่นยนต์ แม้หุ่นยนต์จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็พ่ายแพ้ให้กับการเดินเข้ามาถูขาของแมว จะไม่ขอเล่าตอนจบหรือความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง แต่หากมีโอกาสอยากให้ลองอ่านดูอาจจะเผลอยิ้มมุมปากตามไปด้วย
ตัวอย่างเรื่องแรกที่เคยตีพิมพ์ลงมติชนสุดสัปดาห์มาแล้วเมื่อ 20-26/27 มี.ค.-2 เม.ย.2563
ปรับปรุงใหม่ แมวสังหาร สิงหาคม 2563
PlayRead: คอลัมน์รีวิวหนังสือประจำ Decode.plus เมื่อกองบรรณาธิการขอ add หนังสือ (ที่อยากอ่าน) ขึ้นไว้บนเพลย์ลิสต์ พบกับหนังสือหลากหลายสไตล์ หลากหลายวิธีการเล่าเรื่องที่เชื่อมร้อยกับชีวิตและสังคม แวะมาหาอ่านกันได้ทุกเย็นวันพฤหัสบดี
อ้างอิง
https://www.matchicat.com/article/6/มารู้จักแมว-3-สี-กันเถอะ