สุนัขทั้งโลกตื่นจากความเงียบงัน มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่หลับใหล
Reading Time: 2 minutesPlayread พฤหัสนี้ชวนอ่าน 'รัฐบาลหมา' แฝงเร้นนัยยะทางสังคมและการเมืองไว้อย่างแนบเนียน บ้างก็ว่ายั่วล้ออย่างขื่นขำ บ้างเจ็บปวดในเสียงหัวเราะอันหยามหยัน
คืนหนึ่งในลอนดอนเมืองที่ไม่เคยหลับใหลกลับตกอยู่ในความเงียบงัน แปลกประหลาด ท้องถนนที่คุ้นเคยวุ่นวายกลับไร้เสียงรถยนต์ผู้คนไม่ตื่นขึ้นมาตามกิจวัตรโลกที่ดูใหญ่โตแข็งแรงกลับอ่อนแรงเหมือนกดปุ่ม “ปิดเสียง” ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
มีเพียงสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวที่ยังลืมตา ‘สุนัข’ และไม่ใช่แค่ลืมตา แต่ลุกขึ้นมาในสภาวะความสามารถพิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

บินได้โดยไม่ต้องกระโดด มีพลังเคลื่อนย้ายตัวเองโดยไม่ต้องใช้แรงกาย หยิบจับของได้อย่างกับมีมือเหมือนมนุษย์
เหมือนมีบางสิ่งในจักรวาล “เลือก” พวกเขาอย่างเจาะจง
นี่คือจุดเริ่มต้นของ The Starlight Barking (1967) โดย Dodie Smith หนังสือที่ถูกจัดหมวดว่าเป็น “วรรณกรรมเยาวชน” แต่กลับซ่อนคำถามหนักหนาเกี่ยวกับความจริงของโลก ความหมายของอิสรภาพ ความสัมพันธ์มนุษย์ สัตว์ และกุศโลบายเพื่อสันติภาพปลอม ๆ ของโลกหลังสงคราม
ในปี 2025 โลกที่เราทุกคนกำลังจะข้ามพ้นไปอีกปี มันกลับอ่านได้ร่วมสมัยอย่างน่าประหลาด ราวกับ Smith ไม่ได้เขียนถึงสุนัข แต่เขียนถึงมนุษย์ยุคเรา ในทศวรรษแห่งความแตกแยกเช่นนี้
เมื่อโลกทั้งใบหลับใหล และเสียงที่เคยเบาที่สุดกลับดังขึ้นที่สุด
หนึ่งในภาพเปิดเรื่องที่ทรงพลังที่สุด คือมนุษย์ทั้งมวลในลอนดอน “ไม่ตื่นขึ้นมา” ไม่ได้หายไป ไม่ได้ตาย แต่เหมือนถูกกดปุ่มหยุดชั่วคราว pause อย่างไร้สาเหตุ โลกดูเหมือนปลอดภัย แต่ความปลอดภัยที่เกิดจากความเงียบกริบแบบนี้ กลับน่ากลัวเกินกว่าจะอธิบาย

สุนัข สัตว์ที่มักเป็นเพียงผู้เฝ้าบ้าน ผู้ติดตาม ผู้ถูกเลี้ยง กลับต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่ใหญ่เกินตัวพวกเขา สิ่งที่น่าสนใจคือ พวกเขาไม่ได้ฉวยโอกาส พวกเขาไม่ได้ร่าเริงกับอิสรภาพชั่วคราวไม่ได้ประกาศตัวเป็นผู้ปกครองใหม่ของเมือง
พวกเขากลับใช้เวลาส่วนใหญ่…ตามหาเจ้าของอย่างกระวนกระวาย
นี่คือภาพกลับหัวของ ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ เพราะในโลกจริง มนุษย์ต่างหากที่กำลังตกอยู่ในภาวะ “หลับใหล” หลับต่อความเหลื่อมล้ำ หลับต่อปัญหาโครงสร้างรัฐ หลับต่อความผุกร่อนของสันติภาพ หลับต่อความจริงที่ไม่อยากยอมรับ
แต่คนที่ต้องตื่นขึ้นกลับเป็นคนธรรมดา หรือในที่นี้คือ ‘สุนัข’ ที่ต้องรับมือกับภาวะไร้ผู้นำอย่างกะทันหัน
หากคือการเล่าเรื่องที่แหลมคมอย่างเงียบ ๆ คล้ายโลกตอนนี้ที่คนธรรมดาต้องคิดเรื่องใหญ่กว่าเดิม ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง อนาคตทางการเมืองในขณะที่ “ผู้มีอำนาจ” หลายคนดูเหมือนไม่ตื่นสักที
เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดหนึ่ง สิ่งมีชีวิตลึกลับนามว่า Star Dog หรือ ‘สุนัขจากดวงดาว’ ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับข้อเสนออันยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่อง – ให้สุนัขทั้งโลกย้ายไปอยู่กับเขา บนดาวที่มีแต่ความสงบ สุขสบาย และไม่มีความขัดแย้งใด ๆ
โลกใหม่ที่ Star Dog เสนอ
เป็นดาวที่ไร้ความปวดเมื่อย
ไร้ความโศกเศร้า
ไม่มีความสูญเสีย
ไม่มีความรุนแรงทางสังคม
ไม่มีสงคราม
ไม่มีการเมือง
ไม่มีความรับผิดชอบ
เท่ากับโลกที่ปลอดจาก “ภาระทั้งหมดของความเป็นชีวิต”

ฟังดูเหมือนสันติภาพในความหมายสูงสุด แต่ Smith ทำให้เราเห็นว่ามันคือสันติภาพที่แลกด้วยสิ่งสำคัญยิ่งกว่า
การตัดขาดความสัมพันธ์กับโลกใบเดิม การไม่ยืนอยู่กับผู้ที่เรารัก และการหลบหนีจากความจริงโดยสมบูรณ์
ข้อเสนอของ Star Dog จึงคล้ายกับสิ่งที่สังคมมนุษย์กำลังเผชิญ :
โซเชียลมีเดียที่สร้างโลกสบาย ๆ อันไร้ความจริง
ศาสนา หรืออุดมการณ์ที่เสนอความรอดโดยไม่ต้องตั้งคำถาม
อุตสาหกรรมบำบัดความรู้สึกที่สัญญาความสุขทันที
แนวคิด “ไม่เอาการเมือง” ที่สร้างภาพว่าความสงบเกิดได้ด้วยการเบือนหน้าหนีปัญหา
Smith เขียนเรื่องในยุคสงครามเย็น แต่ “ข้อเสนอแห่งยูโทเปีย” นี้ร่วมสมัยกับยุคเราอย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็ห่างไกลจากยูโทเปียอย่างสมบูรณ์เช่นกัน
ฉากสำคัญที่สุดของหนังสืออยู่ในบทสนทนาระหว่าง Pongo ดัลเมเชียนกับ Star Dog
เมื่อถูกชักชวนให้ย้ายไปยังโลกที่ดีกว่า Pongo ตอบด้วยประโยคเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยน้ำหนักทางศีลธรรม :
“เราไม่อาจทอดทิ้งมนุษย์ของเราได้ แม้พวกเขาจะไม่รับรู้ก็ตาม”
มันไม่ใช่คำตอบ เพราะความซื่อสัตย์แบบสุนัข แต่เป็นคำตอบเชิงปรัชญาที่ลึกกว่า :
เขาเลือก ความจริง มากกว่า ความฝันสำเร็จรูป เขาเลือก ความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิง มากกว่า ความสบายที่โดดเดี่ยว เขาเลือกความรับผิดชอบ แทน การหลบหนี

นี่คือท่าทีแบบ “ยืนอยู่กับโลกแม้มันจะไม่ดีก็ตาม” และมีเสน่ห์คล้ายการตัดสินใจของมนุษย์ในความเป็นจริงที่ล้มเหลวแต่ยังยืนยันที่จะรักษาความหวังอย่างดื้อดึง
Pongo ไม่ใช่แค่ผู้นำของสุนัข แต่แทบจะเป็นตัวแทนของความเป็นมนุษย์ ในความหมายสูงสุดมากกว่ามนุษย์ในเรื่องเสียอีก
เพราะมนุษย์ในเรื่อง ‘หลับ’ แต่สุนัขกลับเป็นฝ่ายใช้เหตุผล ตัดสินใจ และนิยามความหมายของชีวิต
เมื่อมนุษย์หลับ สุนัขได้เห็นโลกในมุมที่ไม่เคยเห็น
ไม่มีเสียงคำสั่ง ไม่มีเสียงดุว่า ไม่มีความคาดหวัง ไม่มีวิถีชีวิตของผู้เป็นเจ้าของมาครอบงำ
เป็นครั้งแรกที่สุนัข “เป็นอิสระ” อย่างแท้จริง แต่สิ่งที่พวกเขาทำกลับไม่ใช่การเฉลิมฉลองอิสรภาพ แต่คือการตั้งคำถามกับมัน
อิสรภาพที่ไม่มีคนรักอยู่ด้วย มีความหมายแค่ไหน?
นี่ทำให้งานของ Smith แม้จะเป็นงานสำหรับเด็ก แต่ก็เข้มข้นในระดับวรรณกรรมสังคมแบบเต็มที่ เพราะมันพาเราหันกลับมามองความสัมพันธ์ที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นกับครอบครัว คนรัก เพื่อนร่วมงาน หรือสังคมกว้าง
ในช่วงเวลาที่โลกเงียบเราจึงได้ยินเสียงที่เคยเบา ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น เหมือนวิกฤตในโลกจริงที่มักเปิดเผยความสัมพันธ์มนุษย์ในมุมเปราะบางที่สุด ความเงียบในเรื่องนี้จึงไม่ใช่ความสงบ แต่เป็นพื้นที่ให้เราเห็น “ความจริงที่ซ่อนอยู่”
ถ้าถามว่านี่คือหนังสือเด็กไหม คำตอบคือ “ใช่” แต่ก็ “ไม่ใช่” พร้อมกันความนิ่งเงียบของผู้มีอำนาจ ท่ามกลางความระส่ำระสายของชีวิตประชาชน ค่าครองชีพแพงกว่าค่าแรง คุณภาพชีวิตของประชาชนอยู่ในช่วงถดถอย แต่ผู้มีอำนาจกลับหลับใหล ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีเสียงป่าวประกาศ ว่าผู้จัดทำนโยบาย ถือครองทรัพยากรของรัฐและอำนาจอย่างมหาศาล จะผลิตนโยบายที่ปกป้องและดูแลประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไร นี่จึงเป็นหนังสือที่ซ่อนบทเรียนทางสังคมและการเมืองอย่างแนบเนียน
Star Dog แสดงให้เห็นว่า ความสงบที่ไม่ต้องเผชิญความจริงไม่มีอยู่จริง และความสงบที่แลกกับความรับรู้ก็เป็นความสงบแบบหลอกตัวเอง
ข้อเสนอของ Star Dog ไม่ต่างจากอำนาจนิยมรูปแบบใหม่ ที่เสนอความสบายโดยไม่ต้องคิดแต่แลกด้วยการสละเสรีภาพ
Pongo สอนให้เห็นว่า ความรัก ความซื่อสัตย์ และความผูกพัน ไม่ใช่สิ่งที่ย้ายตามความสะดวก และความสัมพันธ์คือภาระที่ต้องอยู่ด้วยแม้มันจะเหนื่อยก็ตาม
เพราะ “การไม่รู้สึกอะไร” น่ากลัวกว่าความเจ็บปวด และ “การเงียบ” ไม่ได้แปลว่าปลอดภัย
เรื่องจบลงอย่างเรียบง่าย มนุษย์ตื่น สุนัขกลับสู่สถานะเดิมโลกเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คนอ่านรู้ว่า “บางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว” เพราะตลอดคืนที่มนุษย์หลับใหล สุนัขได้เรียนรู้ว่าความรัก คือความรับผิดชอบ
อิสรภาพ คือการเลือกไม่ทอดทิ้ง สันติภาพคือสิ่งที่ต้องสร้างร่วมกัน และความจริง แม้จะเจ็บปวด ยังมีค่ากว่าความฝันที่ลอยอยู่กลางอากาศ เราอาจไม่ได้ต้องการโลกที่ไร้ปัญหา แต่ต้องการโลกที่เรา ‘ยืนอยู่ด้วยกัน’ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ประโยคของ Pongo จึงยังคงก้องอยู่ เหมือนเป็นคำเตือนเล็ก ๆ จากหนังสือเด็กเล่มนี้
“เราต้องไม่ทิ้งพวกเขาไป แม้ว่าโลกจะเงียบงันแค่ไหนก็ตาม”
บางที ในวันที่โลกของเรากำลังเต็มไปด้วยความสับสน นี่อาจเป็นความกล้าหาญที่สุดที่มนุษย์ยังทำได้ ‘โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างเดียวดาย’

Playread : รัฐบาลหมา
ผู้เขียน : โดดี้ สมิธ
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์ผีเสื้อ
PlayRead : คอลัมน์รีวิวหนังสือประจำ Decode.plus เมื่อกองบรรณาธิการขอ add หนังสือ (ที่อยากอ่าน) ไว้ในเพลย์ลิสต์ พบกับหนังสือหลากหลายสไตล์ หลากหลายวิธีการเล่าเรื่องที่เชื่อมร้อยกับชีวิตและสังคม แวะมาหาอ่านกันได้ทุกเย็นวันพฤหัสบดี