seeddemo – Page 152 – Decode

SLIDER • HEADLINE

GRID • HERO

Columnist

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

Columnist

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

Backpack Journalist

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

GRID • CARD

Columnist

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

วีรพร นิติประภา
Columnist,Welfare state

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
Backpack Journalist,Documentary,Sustainability,VDO

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

Decode
Crack Politics

สื่อสารในยามสงคราม

Reading Time: 2 minutesน่าเสียดายที่ในโลกของการสื่อสารที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างมากในปัจจุบัน เรากลับไม่ได้เห็นสื่ออย่างในรัสเซียมีบทบาทในการตอบคำถามเหล่านี้ให้กับผู้คนในสังคมโลก ตรงกันข้าม เรากลับได้เห็นการที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปสั่งบล็อกสื่อรัสเซียซึ่งในโลกของการสื่อสารปัจจุบันนับเป็นเรื่องที่ผู้เขียนเห็นว่าแปลก

นวลน้อย ธรรมเสถียร
Columnist,Play Read

เปลือยเปล่าความเจ็บปวด…มันคุ้มค่ากับการมีชีวิตอยู่

Reading Time: 2 minutesถ้ารอยหมึกที่คุณไม่ต้องการ คือ การแตกสลายหรือความเจ็บปวดของชีวิตในอดีตที่ผ่านมา ข่าวร้าย…หนังสือเล่มนี้จะไม่มีวิธีการรับมือ ไม่มีทางออก ไม่มีการแก้ไขหรือแม้แต่การก้าวข้าม หากแต่จะอนุญาตให้คุณได้ “รู้สึก” และเข้าใจกับรอย ๆ นั้นในความหมายใหม่ได้ลึกซึ้งมากขึ้น

กัลย์สุดา ปานพรม
Human & Society,Young Spirit

Live and Let Die ในความหมายของลิซ่า

Reading Time: 2 minutesLive and Let Die ในความหมายของลิซ่าอาจบอกเราด้วยว่า ผู้ร้องกำลัง ‘ไม่แคร์’ กับสิ่งที่เคยเป็นตัวตนส่วนหนึ่งของเธอ มันคือความกล้าหาญ กล้าที่จะเดินต่อไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง และน่าจะถือได้เลยว่านี่คือการ ‘ประกาศอิสรภาพ’ ในระดับโลก

โตมร ศุขปรีชา

GRID • LIST • PAGINATION

ขอให้รู้ว่า “ไม่มีใครเป็นเจ้าของความหวังเพียงผู้เดียว”

Reading Time: 2 minutes“ในสายธารประวัติศาสตร์ เวลาหกปีใต้รัฐบาลทหารอาจเป็นแค่จุดเล็กๆ ในเส้นยาวไกลสุดลูกตา แต่สำหรับชีวิตของคนคนหนึ่งก็มากพอที่เด็กจะอ่านออกเขียนได้”

เชื่อผู้นำ ชาติ(ไม่)พ้นภัย: บทเรียนจากบราซิล

Reading Time: 2 minutesบราซิลมีโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณสุขที่ดี แต่ดูเหมือนสิ่งเดียวที่ประเทศขาดไปคือ รัฐบาลและผู้นำที่ดี

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันตกเป็นเหยื่อ เมื่อสถานศึกษาไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย

Reading Time: 3 minutesถูกแอบถ่ายในห้องน้ำ จนถึงการข่มขืนระหว่างช่วยงานรุ่นพี่ เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย ที่ถูกคาดหวังให้เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ ปลอดภัย และเต็มไปด้วยปัญญาชน

1 150 151 152 153 154 202

GRID • CAPTION

GRID • CARD • HIDE SUMMARY

Columnist

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

วีรพร นิติประภา
Columnist,Welfare state

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
Backpack Journalist,Documentary,Sustainability,VDO

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

Decode
Conflict Resolution,Environment

จะนะสายตายาว ยกแรก SEA ยกสุดท้ายกระจายอำนาจ

Reading Time: 2 minutesชวน ดร.สินาด ตรีวรรณไชย นักวิชาการที่คลุกคลีกับประเด็นจะนะมาอย่างต่อเนื่อง สนทนาถึงคำถาม SEA จะไปต่ออย่างไร

อติรุจ ดือเระ
Economy,Journalism,News

การรวมกลุ่มของไรเดอร์ส่งอาหาร-การต่อรองกับแพลตฟอร์มข้ามชาติยักษ์ใหญ่

Reading Time: 4 minutesความนิยมในการสั่งอาหารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้เกิดการขยายตัวของงานส่งอาหารรายชิ้น ที่มีชื่อเรียกอย่างเก๋ไก๋ว่า ‘งานกิ๊ก’ (gig work) โดยพนักงานขี่มอเตอร์ไซต์ส่งอาหารหรือ “ไรเดอร์” ที่บริษัทแพลตฟอร์มกำหนดสถานะเป็น “พาร์ทเนอร์” หรือหุ้นส่วน แต่กระบวนการทำงานที่เป็นจริงไม่ต่างจากพนักงานของบริษัท

สถาบันแรงงานและเศรษฐกิจที่เป็นธรรม
Economy

120 บาทที่เคยคุ้มค่า (ลด)ค่ารอบไรเดอร์หนนี้เหลือคุ้มทุน 15 บาท คุ้มที่ว่า คุ้มใคร?

Reading Time: 4 minutesส่องภาระที่ไรเดอร์ต้องแบกในชื่อของพาร์ทเนอร์-อาชีพอิสระ-คนส่งของ ในวันที่ค่ารอบเหลือเพียง 15 บาท ทางออกและกับดักของอาชีพไรเดอร์แพลตฟอร์ม กับการคำนวณจุดคุ้มทุนของบริษัทแพลตฟอร์ม 
คุ้มทุนที่ว่าคือคุ้มทุนลูกค้า ร้านค้า ไรเดอร์ หรือเพียงแค่แพลตฟอร์ม

นทธร เกตุชู
Interviews,Story,Welfare state

หนึ่งปียังไม่ชนะ: เเพ้น็อกยกสาม ลุกอย่างไรไม่ให้ล้มอีก

Reading Time: 3 minutesโควิด-19 อยู่กับเรามาครบปี ความโดดเดี่ยว สิ้นหวัง และวิถีชีวิตใหม่ก็ไม่ได้หายไปไหน หลายประเทศอาจฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ประเทศซึ่งถูกยกยอว่าจัดการกับโควิด-19 ระลอกแรกได้ดีติดอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างไทย สภาพตอนนี้กลับไม่ต่างจากคนแพ้น็อกบนเวทีมวยเท่าไรนักเพราะถูกซัดหมัดใส่หน้าอย่างจังทั้งที่กำลังลุก แล้วปัจจัยสำคัญคืออะไรกัน ประชาชนการ์ดตก รัฐล้มเหลว หรือเพราะเชื้อโควิดกลายพันธุ์เกินกว่าจะควบคุม

อติรุจ ดือเระ

GRID • CONTENT

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

‘ฟ้องปิดปาก’ ไม่แผ่ว! หายนะทางสิ่งแวดล้อมที่ป้องกันได้ด้วยกม.และเจตจำนงทางการเมือง

Reading Time: 3 minutes“เขาไม่ต้องการชนะหรอก เขาแค่ต้องการให้เราเงียบ และมันเป็นวิธีการที่รวดเร็วที่สุดที่จะปิดปากไม่ให้ใครพูดถึงผลกระทบต่อสาธารณะ” เสียงสะท้อนจาก เบญจา แสงจันทร์ คณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีปิดปากจากภาคธุรกิจ เหตุจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กล่าวอ้างเอื้อผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในขณะปฏิบัติหน้าที่สส. รูปแบบการฟ้องคดีปิดปากหรือคดี SLAPP (Strategic Lawsuit against Public Participation) กลายเป็นเครื่องมือของทุนและรัฐใช้เพื่อหวังผลให้เสียงของการเรียกร้องสิทธิอ่อนแรงและเงียบลง ไม่เว้นแม้แต่นักปกป้องสิทธิ หรือผู้แทนทางการเมืองที่ถูกเลือกมาจากประชาชนก็ล้วนถูกฟ้องดำเนินคดีทั้งสิ้น โดยผู้ฟ้องไม่ได้มุ่งแสวงหาข้อเท็จจริงด้วยกระบวนการยุติธรรม ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง SLAPP จึงไม่เพียงตีแผ่ความอยุติธรรมที่นักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมต้องเผชิญ แต่ยังสื่อถึงพลัง ความกล้าหาญ และความหวังของผู้คนที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม และเรียกร้องให้มีการจัดทำกลไกทางกฎหมายที่เป็นธรรมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ทั้งยังเปิดเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักกิจกรรม นักกฎหมาย ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เพื่อร่วมกันหาทางออกจากปัญหา SLAPP ‘ฟ้องปิดปาก’ มรดกตกทอดจากรัฐประหาร  ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2557 ที่สังคมไทยอยู่ภายใต้ระบบรัฐประหาร เกิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 พ.ร.บ. นี้ถูกใช้บังคับควบคุมการแสดงออกด้วยการชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิของประชาชน และเป็นหนึ่งเหตุผลที่รัฐใช้ในการดำเนินคดีกับผู้ออกมาเรียกร้องปกป้องสิทธิของตนเอง เช่นในกรณี ‘เทใจให้เทพา’ ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ ด้วยการจับกุมและดำเนินคดีแกนนำทั้ง 17 คน ข้อหาขัดขวางการจับกุม ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รัฐ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ  […]

การศึกษา(เพิ่ม)หลังจบป.ตรี

Reading Time: < 1 minuteไม่มีใครควรใช้เงินพ่อแม่เพื่อการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอก อย่างที่บอก…มันไม่จำเป็น ในแง่เศรษฐศาสตร์มันก็เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ยิ่งเรียนต่อต่างประเทศยิ่งแล้ว เว้นแต่พ่อแม่ของคุณจะร่ำรวยมาก ๆ

อากาศสุดขั้ว รัฐรวมศูนย์สุดขีด

Reading Time: 2 minutes‘แพร่หลาย รวดเร็ว รุนแรง’ รหัสแดงที่โลกต้องเผชิญ เมื่อความแปรปรวนทางสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้นทุกวัน De/code ร่วมถอดรหัส สภาวะอากาศสุดขั้ว (Weather Extremes) กับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ที่ไม่ว่าจะมองในแง่อุณหภูมิที่สูงขึ้น ฝนตก ภัยแล้ง น้ำท่วม หรือน้ำทะเลสูงขึ้นก็สาหัสไม่แพ้กัน 

MIX

Columnist

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

วีรพร นิติประภา
Columnist,Welfare state

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
Backpack Journalist,Documentary,Sustainability,VDO

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

Decode
Columnist,Play Read

มองผ่านซากอิฐปูน ในงานเขียน น. ณ ปากน้ำ

Reading Time: 4 minutesผ่านมากกว่า 56 ปีหลังจากหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรก หลังจากอ่านจบนอกจากซากอิฐปูน ประวัติศาตร์ศิลปะ รูปแบบเจดีย์ ที่อัดแน่นอยู่ในเล่ม ผมกลับสนใจคำบ่น และเสียงเหนื่อยหอบ รวมไปถึงเรื่องเล่าระหว่างทางที่แอบซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด

นราธิป ทองถนอม

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

สันติภาพยิ่งพร่าเลือน วิธีแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ยิ่งต้องทบทวน

Reading Time: 3 minutesที่ผ่านมาเรามักมีคำถามกันเสมอว่าเพดานของการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ของรัฐบาลอยู่ที่ไหน ถ้าพิจารณาเงื่อนไขการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มบีอาร์เอ็นจะพบว่า มีการกำหนดเอาไว้ว่าการพูดคุยจะต้องกระทำโดยอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ นั่นก็น่าจะชัดแล้วว่า ยกเว้นเรื่องของการแยกดินแดนแล้วเรื่องอื่นๆที่รัฐธรรมนูญยอมให้ทำได้ย่อมเป็นไปได้ทั้งสิ้น หนทางเดินต่อไปในการแก้ปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องลี้ลับพิสดารอันใด อยู่ที่ว่าจะเสนอกันแค่ไหนและองคาพยพต่างๆของรัฐไทยจะยอมรับกันได้หรือไม่เท่านั้น ผู้เขียนเชื่อว่าข้อเสนอของกรรมาธิการฯจะเป็นเพียงจุดตั้งต้นให้ฝ่ายต่างๆเหล่านี้ได้ต่อรองกัน อย่างน้อยที่สุดก็ในรัฐสภาซึ่งในเวลานี้เห็นชัดเจนว่าฝ่ายที่อนุรักษ์ส่วนใหญ่ไปกระจุกตัวกันอยู่ในกลุ่มสว.และสว.นั่นเองที่เกาะติดการทำงานแก้ปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลที่ผ่านมา  

กระดาษเปล่า ผ้าคลุมผม หนีทหาร และการเมืองเชิงสัญลักษณ์

Reading Time: 2 minutesอย่างไรก็ตาม สำหรับคำถามที่ว่าการชุมนุมประท้วงของประชาชนในจีน อิหร่าน และรัสเซีย จะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลหรือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมืองหรือไม่ คำตอบคือ ยาก เพราะทั้ง 3 รัฐล้วนมีกลไกรัฐที่แข็งแกร่งและครองอำนาจมายาวนาน มียุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการรับมือกับการชุมนุมประท้วงที่แยบยลหลากหลายวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามบนท้องถนน การใช้เครื่องมือทางกฎหมาย การปลุกกระแสชาตินิยม และการทำสงครามข้อมูลข่าวสาร เช่น การดิสเครดิตประชาชนที่เคลื่อนไหวว่ารับเงินต่างชาติมาสร้างสถานการณ์และมีเจตนาแอบแฝง การสร้างข่าวปลอม การหันเหความสนใจของประชาชนด้วยข่าวอื่น ดังที่รัฐบาลจีน รัสเซีย และอิหร่านทำอยู่ในปัจจุบัน

ความใหม่และความท้าทายของ “บ้านเพื่อคนไทย”

Reading Time: 3 minutesโครงการบ้านเพื่อคนไทยกับความท้าทายเพื่อบ้านหลังแรกของประชาชน ในขณะที่ปฏิกิริยาส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาในทางไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเกรงว่า จะซ้ำเติมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีบ้านคงค้างรอขายอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลแพทองธารจะบรรลุผลเพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยได้อย่างไรบ้าง

Madre Brava ปักธงลดการผลิตเนื้อสัตว์ ลดฝุ่น PM2.5 ตัดไฟแต่ต้นลมด้วยโปรตีน ‘หลากหลาย’  

Reading Time: 4 minutesปัญหาฝุ่น PM2.5 นับเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและวิถีชีวิตของคนไทยมานาน โดยจากการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิด PM2.5 มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการผลิตถ่านอัดแท่ง ภาคอุตสาหกรรม และการคมนาคมขนส่ง และในปี 2020 พบว่าแหล่งกำเนิด PM2.5 ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยคือการเผาเพื่อการเกษตร ซึ่งก่อให้เกิด PM2.5 มากกว่าหนึ่งในสาม

SLIDER • HERO

Columnist

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

Columnist

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

Backpack Journalist

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

Columnist

สุนทรียศาสตร์ และรัฐสวัสดิการ: แด่ ถนอม ชาภักดี

Reading Time: < 1 minuteว่าด้วย “ความงาม” สิ่งที่อาจารย์บรรยายในวันนั้นสำคัญกับผมมาก และมันมีความเกี่ยวพันกับเรื่องรัฐสวัสดิการ ความเสมอภาค ความเท่าเทียมในมิติต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง

SLIDER • CARD

Columnist

วาระแห่งความภาคภูมิในตัวเอง 

Reading Time: 2 minutesประเทศเต็มไปด้วยคำตอบอันปราศจากคำถาม วีรพร นิติประภา มิถุนายนถูกถือว่าเป็นเดือน Pride หรือเดือนแห่งความภาคภูมิในตัวเองของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีการจัดขบวนพาเหรดเดินและงานเฉลิมฉลองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่น้อยคนจะรู้ว่างานนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเรียกร้องทางการเมืองที่น่าสนใจมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เรื่องทั้งหมดเริ่มจากเหตุการณ์ที่ถูกเรียกภายหลังว่า Stonewall Riots หรือจราจลสโตนวอลล์ ย่านกรีนนิชวิลเลจ ในนิวยอร์กซิตี้ วันที่ 28 เดือนมิถุนายน–3 กรกฎาคม ปี 1969 …กว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว การปะทะจราจลครั้งนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งครั้งแรกระหว่างทางการอเมริกันกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในช่วงทศวรรษที่ 60s ก็มีการชุมนุมเรียกร้องของนักเคลื่อนไหว LGBT ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วอเมริกามาตลอด พักนึกภาพตามสักนิดก่อน แรกเริ่มเดิมทีก่อนหน้าหลายพันปี การเป็นคนรักเพศเดียวกันได้รับการต่อต้านจากคริสตจักรมาตลอด ไม่เพียงแต่คนที่รักเพศเดียวกันจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป ในหลายประเทศนี่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และมีโทษตั้งแต่จำคุกไปจนถึงประหารชีวิต (ปัจจุบันยังมีการลงโทษรุนแรงในหลายประเทศมุสลิมอยู่) จนมาถึงทศวรรษที่ 60s คนที่แสดงตัวเป็นเกย์  เลสเบี้ยน แดรกควีน ทอมบอยหรือข้ามเพศก็ยังถูกกีดกัน ทั้งโอกาสงาน การเช่าบ้าน กระทั่งการเข้าคลับ บาร์ สถานบันเทิงทั่วไป เรียกว่าเป็น ’คนนอก’ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ที่ที่คนเหล่านี้สามารถพบปะสังสรรค์กันจึงต้องเป็นบาร์เฉพาะ และบาร์เฉพาะหรือบาร์เกย์เหล่านี้ก็เป็นบาร์ใต้ดินหรือบาร์เถื่อนด้วย เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิ์ให้จดทะเบียนดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาแต่ต้น วนเป็นงูกินหาง …และบาร์สโตนวอลล์ อินที่ว่าก็เป็นหนึ่งในนั้น นิวยอร์กในเวลานั้นก็เป็นเมืองที่มีประชากรผู้มีความหลากหลายทางเพศอยู่จำนวนมาก และการที่ตำรวจจะบุกจับและปิดบาร์เถื่อนแบบนี้ก็เป็นเหตุประจำวันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาตขายสุรา แต่เที่ยงคืนวันที่ 28 มิถุนายนปีนั้นดูเหมือนตำรวจจะใช้ความรุนแรงกับบรรดาแขกของบาร์สโตนวอลล์เกินความจำเป็นไปสักหน่อย โดยมีการใช้กระบองตีผู้หญิงและหญิงข้ามเพศ แต่หลังจากจับคนหลายร้อยคนไปแล้ว เรื่องก็กลับไม่จบลงแค่นั้น มีผู้คนเริ่มเข้ามาชุมนุมรอบ ๆ บาร์เพิ่ม และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากหลักร้อยเป็นหลายพัน มีการเรียกร้องให้ผู้หลากหลายทางเพศเปิดเผยตัวตน และเข้าร่วมชุมนุม การประท้วงยืดเยื้อหลายวัน มีความรุนแรงน้อยใหญ่เกิดขึ้นประปราย และการประท้วงครั้งนั้นเป็นชนวนนำมาซึ่งการเดินขบวนประท้วงของกลุ่ม LGBT ทั่วประเทศอีกหลายครั้ง ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องการได้รับยอมรับในฐานะประชากรที่เท่าเทียมในทางกฎหมายทั่วอเมริกา และลามไปยังยุโรปกับประเทศอื่น ๆ ในเวลาต่อมา รายละเอียดเรื่องนี้สามารถหาอ่านได้ในวิกิพีเดียและเว็บต่าง ๆ ได้ แต่แก่นสารของเรื่องไม่ได้อยู่ที่จราจลที่นั่นวันนั้น  หรือกระทั่งการต่อสู้ในเวลาต่อมา หากอยู่ที่การเปิดเผยตัวตนและปฏิเสธที่จะหลบซ่อนของคนที่มีความหลากหลายทางเพศต่างหาก และนั่นก็เป็นที่มาของคำว่าไพรด์ …การยอมรับตัวเองอย่างภาคภูมิ และหลังจากนั้นเมื่อมีการรำลึกถึงเหตุการณ์ในเวลาต่อมาจึงเรียกงานนี้ว่าไพรด์ จากคนไม่กี่คนที่มารวมตัวหน้าบาร์สโตนวอลล์ในปีถัดมา  งานไพรด์ค่อย ๆ ขยายกลายมาเป็นพาเหรดประจำปีของคนนับหมื่นนับล้านตามเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดเผยตัวตน เพื่อแสดงความภาคภูมิในตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นตัวเองและเลิกหลบซ่อนปิดบัง นับแต่นั้นการเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ LGBT […]

วีรพร นิติประภา
Columnist,Welfare state

การรักษาแบบประคับประคอง : ศักดิ์ศรีในวาระสุดท้ายที่การรักษาพยาบาลประกันสังคมควรมี

Reading Time: 2 minutesสิทธิในการตายอย่างสงบ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างสุดท้ายที่รัฐจะให้ได้ ในห้วงเวลาที่การรักษาแบบประคับประคองเป็นที่พูดถึง แต่ยังติดขัด โจทย์สำคัญที่ระบบประกันสังคมต้องให้คำตอบ

รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
Backpack Journalist,Documentary,Sustainability,VDO

AFTER Documentary Series

Reading Time: 3 minutesDecode Original Documentary Series ในเครื่องหมายคำถาม Our World Heritage in Danger? เรื่องราวของมนุษย์ผู้โดดเดี่ยวเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตัวเขาเอง

Decode
Inequality,Welfare state

ขบวนรถไฟแห่งชีวิต กม.11 บนเส้นทางของการพัฒนาที่ไม่ถูกนับ

Reading Time: 3 minutesหากคุณมีโอกาสเดินทางไปยังพื้นที่โดยรอบของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นอกเหนือไปจากพื้นที่ ความงดงามสะดวกสบายของย่านการค้าและสถานที่ราชการแล้วนั้น ยังคงมีชุมชนที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่และ เกี่ยวพันกับเส้นทางรถไฟอย่างไม่อาจแยกขาดจากกัน  

ณัฐณิชา มีนาภา
Columnist

โครงสร้างแห่งความจำนน

Reading Time: < 1 minuteการไม่พูดไม่ส่งเสียงของเรายังทำให้เราเป็นประชากรที่ยอมจำนนได้อย่างน่าทึ่ง เรารถติดไปทำงานวันละหลายชั่วโมง เคยชินและคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องแก้ไขไม่ได้ ในขณะที่ทั่วโลกแก้ไขปัญหานี้เสร็จจบกันไปหลายทศวรรษแล้ว 

วีรพร นิติประภา
Crack Politics,Futurism,Human Rights

ภาษาของความรุนแรง ชายขอบของความเงียบงัน

Reading Time: 2 minutesในช่วงทำข่าวที่สามจังหวัดภาคใต้ใหม่ๆ ผู้เขียนเคยไปที่หมู่บ้านหนึ่งในจังหวัดนราธิวาสเพื่อจะสัมภาษณ์ภรรยาของคนที่โดนอุ้มหายไป

นวลน้อย ธรรมเสถียร
Columnist

เป็นคนเก่งที่ท็อกซิก

Reading Time: < 1 minuteมนุษย์ขี้นินทาว่าร้าย ช่างตัดสินทุกสิ่งอัน ถึงขั้นทำตัวเป็นตำรวจคอยตรวจประพฤติตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมไปยันการทำงาน วัน ๆ คอยนั่งจับผิดคนโน้นคนนี้ ใครอย่าได้ทำอะไรพลาดแม้เล็กน้อยนี่ก็จะคอยเอาไปฟ้องนาย กับขยายความให้เพื่อนร่วมงานรู้กันทั้งบริษัท ใช้อารมณ์และเจ้าอารมณ์ ขี้บ่น ไม่เคยชื่นชมใคร ชอบดราม่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ชอบพูดเยาะเย้ยถากถางเสียดสี เรื่องดีเอาเข้าตัว…เรื่องชั่วโยนให้คนอื่น ขี้โม้ บ้าโอ่ อวดตัวไปพร้อม ๆ กับกดคนอื่นให้ตกต่ำ ชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวคนมาเม้าท์มอย แน่นอนขี้อิจฉา เห็นใครดีกว่าไม่ได้  แล้วยังชอบควบคุม  ชอบให้ทุกคนทำตาม

วีรพร นิติประภา
Explain,News

“อนุรักษนิยม” ที่ถูกเข้าใจผิด กับ “เส้น” ที่ห้าม “ล้ำ” ของการบูชาตัวบุคคล

Reading Time: 2 minutesสำหรับหฤษฎ์ มหาทน นักเขียนไลต์โนเวล เจ้าของเพจ Starless Night – Harit Mahaton ผู้นิยามตัวเองว่าเป็นอนุรักษนิยม (ไม่ใช่แบบไทยๆ) ที่มักตั้งสเตตัส/วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นต่างๆ ในเพจอยู่เสมอ แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนว่า ขวาแบบที่เรียกกันในไทยไม่เท่ากับขวาสากล ดังที่เขาจะร่วมบทสนทนาต่อประเด็นนี้กับ De/code ไปจนถึงประเด็นเรื่องการบูชาตัวบุคคลที่แทบจะกลายเป็นภาพทาบทับอย่างแนบสนิทไปแล้วกับฝ่ายขวาในไทย

ปิยวัฒน์ สีแตงสุก

SLIDER TO GRID • CAPTION